วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ (ภาคพิเศษ)
โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุภาภรณ์ เกียรติสิน
ประธานหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ (ภาคพิเศษ)
คณะวิศวกรรมศาสตร์
MASTER OF SCIENCE PROGRAM IN INFORMATION
TECHNOLOGY MANAGEMENT (SPECIAL PROGRAM)
มุ่งผลิตมหาบัณฑิตทางการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่มีความรู้ความสามารถบนพื้นฐานของการคิดอย่างเป็นระบบ คิดเชิงสร้างสรรค์ คิดเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อสร้างภาวะความเป็นผู้นำในการบูรณาการความรู้และความสามารถ เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการบริหารจัดการ ตอบสนองกับความต้องการของภาครัฐ ภาคธุรกิจของประเทศ และนโยบายประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ความเป็นมา ความสำคัญของการจัดทำหลักสูตร
หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เริ่มเปิดการเรียนการสอน เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๗ เดิมหลักสูตรอยู่ที่บัณฑิตวิทยาลัย ต่อมาคณะกรรมการของมหาวิทยาลัยมหิดล และอดีตคณบดีได้ร่วมกันพิจารณาเห็นชอบให้หลักสูตร มาอยู่ในความดูแล และจัดการเรียนการสอนโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรได้รับความสนใจมีผู้เข้ามาศึกษาอย่างต่อเนื่อง ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ หลักสูตรจึงได้เปิดการเรียนการสอนระดับปริญญาเอก เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ในด้านการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างผู้เชี่ยวชาญ และนำความรู้มาพัฒนา ปฏิบัติงานด้านการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างมั่นคงและยั่งยืน ปัจจุบันที่คณะมีนักศึกษาในระดับปริญญาเอก ๒ รุ่น รวมประมาณ ๒๐ กว่าคน นักศึกษาส่วนใหญ่ที่มาศึกษา อยู่ในระดับผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจและเอกชนความสำคัญในการจัดทำหลักสูตรฯ สาขา วิชาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ เนื่องจากที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า IT Management จะเกี่ยวข้องกับวิศวะ วิทยาศาสตร์ หรือการบริหาร ถึงแม้ว่าปัจจุบันประเทศไทยจะพัฒนา IT ได้ดีมาก แต่ยังนำ IT มาใช้ในการบริหารงานได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร หรือบริหารงานได้เพียงอย่างเดียว บางครั้งเราไม่รู้เลยว่าข้อมูลเหล่านั้นได้จากไหน จากเครื่องมือ อุปกรณ์อะไร Manage กันอย่างไร ในต่างประเทศกลุ่มสาขาวิชาทางด้านนี้จะได้เงินเดือนมากที่สุด IT Management อาจจะไม่ใช่ทั้งทาง Engineer หรือไม่ใช่การบริหาร อย่างใดอย่างหนึ่ง ยกตัวอย่าง โครงการทางด้าน IT ระดับร้อยล้าน ในประเทศไทย ถ้าเราใช้คนที่มี Know how เฉพาะด้าน เช่น เก่งชำนาญทางด้านวิทยาศาสตร์ วิศวะ หรือ IT อย่างใดอย่างหนึ่ง ไปบริหารโครงการในระดับนี้ ผลของโครงการอาจได้ไม่เต็มร้อย แต่ถ้าในขณะเดียวกัน ถ้านำเอาด้านบริหารอย่างเดียวไป Manage โครงการเป็นพันล้าน ก็จะได้แค่เชิง Manage แต่เรื่องของ IT จะไม่เกิดขึ้น ทางหลักสูตรจึงนำเอาสองศาสตร์นี้มาผสมผสานร่วมกัน ระหว่างการบริหาร และ IT จึงเป็นที่มาของหลักสูตร การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ IT Management ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ช่วยตอบโจทย์ให้กับสังคมในยุค Digital Economy ตั้งแต่เรื่องของการดีไซน์ การควบคุม จนกระทั่งการนำไปใช้จริง เช่น ผู้เรียนจะมีบทบาทในการบริหารจัดการองค์การให้ทันกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลอย่างรวดเร็ว พร้อมสนับสนุนการนำเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยเข้ามาบริหารจัดการ ให้องค์การปฏิบัติงานได้อย่างมีประ-สิทธิภาพ
จุดเด่น ความโดดเด่น ของหลักสูตร
นักศึกษาในหลักสูตร ส่วนใหญ่จะมีประสบการณ์การทำงาน ประกอบกับหลักสูตรเป็นหลักสูตร ภาคพิเศษ ซึ่งเอื้ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เรียนที่ทำงานที่ต้องการศึกษา เพื่อต่อยอดความรู้ในระดับที่สูงขึ้น ได้มาศึกษาในวันเสาร์-อาทิตย์ นักศึกษาในหลักสูตรค่อนข้างจะมีคุณภาพ ด้วยผ่านงานมาแล้ว มี Vision ในการมองออก อย่างที่กล่าวหลักสูตรฯ จะไม่ได้เน้นไปทางด้าน วิศวะ วิทยาศาสตร์ IT หรือ Management อย่างหนึ่งอย่างใด แต่จะเป็นลักษณะ Balance ให้เท่าๆ กัน ระหว่าง IT กับ Management อีกทั้งหลักสูตรจะเน้นการเรียนการการสอนที่ให้ความรู้ เนื้อหาเชิงลึก นักศึกษาที่สำเร็จในหลักสูตรออกไป จะนำความรู้ไปยุกต์ใช้ในการทำงาน การบริหารงานในด้านต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน
หลักสูตรมีความร่วมมือจากหลากหลายหน่วยงาน ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการการพัฒนาบุคลากรสายอาจารย์ในภาควิชา อย่างเช่น อาจารย์เอง ปัจจุบันเป็นอนุกรรมการขับเคลื่อน Enterprise Architecture ของประเทศ เป็นที่ปรึกษาปลัดกระทรวง ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (Ministry of Digital Economy and Society) ในส่วนของอาจารย์จึงมีการ Contact นำหลักสูตรฯ ไปหาร่วมมือ (MOU) กับภาคเอกชนและภาครัฐบาล เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หลักสูตรฯ มี MOU ที่ชัดเจน รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โรงพยาบาลหรือ การทำ Project งานร่วมกัน บางหน่วยงานได้ส่งบุคลากรเข้ามาศึกษาต่อ ที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งคือ อาจารย์ของเราทุกท่าน มี Certificate ด้าน Industry ซึ่งงานด้านการบริหารงานด้าน ICT จำเป็นต้องมี และเนื้อหารายวิชาในหลักสูตร เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะไปช่วยพัฒนาประเทศ ลงสู่ภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริงรูปแบบการเรียนการสอน และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับหลักสุตร
การเรียนการสอนของหลักสูตร จะมีทั้งการเรียนใน classroom และการเรียนสอนลักษณะ E - learning การทำ Thesis โดยปกติ แล้วหลักสูตรจะมีทั้ง Thesis Project ซึ่งเป็น Project แบบบูรณาการมีการทำ Contact กับ สถานที่จริงที่นักศึกษาทั้งกลุ่มเข้าไป โดยมีอาจารย์เป็น Coaching อาจารย์ในหลักสูตรฯ หลายท่านเป็น Consult ให้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคเอกชน และประกอบปัจจุบันสังคมเป็นยุคของ Smart life smart city มากขึ้นสิ่งที่นักศึกษาจะได้รับในระหว่างศึกษา และสำเร็จการศึกษาออกไป
เมื่อเข้ามาศึกษาในหลักสูตรฯ จะให้นักศึกษาสอบ Certificate ด้าน IT โดยเราจะมีศูนย์สอบให้ เพราะเราต้องการให้นักศึกษาที่สำเร็จจากหลักสูตรออกไป มีความพร้อมเป็นบัณฑิตที่พึ่งประสงค์ อีกทั้งในหลักสูตรฯ อาจารย์ผู้สอนจะสอดแทรกเรื่อง COBIT ลงไปในรายวิชา รวมถึงมีการเทรน การติว เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาสอบ ซึ่งศูนย์สอบดังกล่าว จะให้บริการทั้งนักศึกษาและ บุคคลภายนอก การสอบถ้าไปสอบข้างนอกจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ถามว่านักศึกษาจะได้อะไร เหมือนเราติดอาวุธ ให้นักศึกษาของเรา นอกจากนั้นหลักสูตร จะมีการจัดการเรียนสอนแบบ Know how แบบที่ใช้จริง ให้ทำงานจริง รวมถึงการจัดทำ international conference ซึ่งมีชาวต่างชาติ และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย อื่นเข้าร่วม เป็นช่องทางการเรียนรู้ให้กับนักศึกษาอีกทาง หลักสูตรยังได้เชิญ Cast speaker ระดับ ประเทศ เช่น อดีตรัฐมนตรีช่วย ICT หรือ CTO CEO ของหน่วยงานใหญ่ๆ ล่าสุด หลักสูตรได้เชิญระดับ CIO จากทางกองทัพบก มาให้ความรู้ อตีต ท่านเป็นศิษย์เก่าของหลักสูตรฯ ทั้งยังมี Journal ที่ให้นักศึกษาเข้ามามีส่วนร่วม เรามีการสอนทุกรูปแบบ ที่จะให้ความรู้แก่นักศึกษา ซึ่งนักศึกษาจะต้องนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ ประกอบอาชีพได้จริงความภาคภูมิใจ ศิษย์เก่าที่เด่นดัง
ปัจจุบันยอดจำนวนนักศึกษา ไม่ว่าจะเป็นของสถาบันการศึกษาใดเริ่มลดลง แต่หลักสูตรของเรากลับสวนกระแส มีนักศึกษาหลายท่านใช้เวลาเรียนเพียงแค่ ๘ เดือน และศิษย์เก่าของเราหลายๆ ท่านได้ทำงานในองค์กรที่มีชื่อเสียง ได้ รับ Project งานที่มีความสำคัญในระดับประเทศ อาทิเช่น การดูแลเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์สื่อออนไลน์ ซึ่งเรื่องนี้ ถ้าเราใช้ของต่างประเทศในสหรัฐอเมริกาจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมาก แต่อันนี้ นักศึกษาสามารถทำได้เอง เป็นส่วนหนึ่งของ Thesis และยังเป็นรายได้ให้นักศึกษาในขณะยังศึกษาได้ด้วย อีกด้านหนึ่งก็จะเป็นทางด้านเภสัช ตรงนี้นักศึกษาเราได้ทำ Enterprise ทำ Industries ในโรงพยาบาลเรื่องของระบบการจ่ายยา ซึ่งเป็นเรื่องนโยบายระดับประเทศ และยังมีศิษย์เก่าอีกหลายท่านที่มีชื่อเสียง รุ่นแรก เป็นผู้นำระดับสูงของกองทัพบกที่ดูแลด้าน Security รุ่นที่ ๒ เป็นผู้บริหารใน สรอ. สำนักงานรัฐบาล อิเล็กทรอนิก และยังมีอีกหลายท่าน ที่ล้วนเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนระดับประเทศ นี่คือความภาคภูมิใจของอาจารย์ในหลักสูตรทุกท่านทุนการศึกษา สวัสดิการ
หลักสูตรมีทุน จากความมือ (MOU) กับภาคอุตสาหกรรม เป็นทุน ๕๐% ทุน ๑๐๐% และเมื่อเข้ามาเป็นนักศึกษาเราแล้วก็จะมีทุนเรียนดี ทุนกิจกรรม รวมไปถึงแหล่งทุนจากข้างนอก หรือแม้กระทั่งทุนการศึกษา รางวัลจากบัณฑิตวิทยาลัย ม.มหิดล รวมทั้งการให้สิทธิพิเศษในการสอบ Certified และมีสวัสดิการอาหารว่าง และอาหารกลางวันให้กับนักศึกษาด้วยคุณสมบัติของผู้ที่สนใจเข้าศึกษา
เนื่องจากหลักสูตรของเราเป็น Multidisciplinary นั่นหมายความว่า ผู้สนใจจากสาขาไหนใดก็สมัครเข้าศึกษาได้ ปัจจุบันเรามีนักศึกษาที่มาจากเภสัช ทหาร นิเทศ วิศวะ วิศวะอุตสาหการ แต่ขอให้ผู้สนใจศึกษาต่อมีความสนใจ มีความพยายาม และตั้งใจในการเข้ามาศึกษาในครั้งนี้ Thesis หรือ Thematic paper หลักสูตรจะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิ และอาจารย์ผู้มีประสบการณ์โดยตรงมาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาฯ จะเลือกงานวิจัยที่อยู่ใกล้ตัวของนักศึกษา มาเป็นหัวข้อในการทำวิทยานิพนธ์หรือสารนิพนธ์ ก่อนอื่นจะดูว่านักศึกษา มีความสนใจ มีพื้นฐานความรู้นักศึกษามีความสนใจ มีพื้นฐานความรู้ในเรื่องนั้นระดับไหน หลักสูตรฯ ยินดีที่จะช่วยผลักดันนักศึกษาอย่างเต็มที่ความเพียงพอของนักศึกษาที่ผลิตออกไปกับความต้องการของแรงงาน
ปัจจุบันบุคลากรด้านนี้ ยังได้รับความสนใจและความต้องการจากตลาดแรงงานจำนวนมาก หลักสูตรพยายามจะผลิตบุคลากรที่มีความชำนาญในหลายๆ ด้าน ให้ทันกับสังคมปัจจุบัน อาจารย์ที่ภาควิชา จะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากหลากหลายสาขาวิชา สาเหตุเนื่องจากความเป็น สหสาขาวิชา เราจึงต้องการให้นักศึกษามีความรอบรู้ รู้รอบด้าน รู้ลึก เพื่อเข้าไปตอบโจทย์สังคมอย่างแท้จริง อีกทั้งหลักสูตรยังมีการพัฒนาการเรียนการสอนให้เป็นแบบ e - learning ให้กับผู้ที่สนใจรวมทั้งบุคคลทั่วไป ในเรื่องของค่าใช้จ่าย ในการศึกษา จำนวนเงินที่ใช้ในการศึกษาตลอดหลักสูตรไม่ได้สูงเพราะเราไม่ต้องการ ทำให้หลายๆ คน ขาดโอกาสตรงนี้ไป ดังนั้นเรื่องของค่าเทอมที่คณะฯ จึงค่อนข้างถูกแต่หลักสูตร ของเรา มีความเป็นมาตรฐานเทียบเท่าในระดับสากล หลักสูตรคาดว่าจะผลิตบุคลากรด้านนี้ที่มีคุณภาพออกสู่สังคมของประเทศได้เพียงพอฝากถึงผู้สนใจต้องการเข้ามาศึกษาในหลักสูตร
จากความหลากหลายในงานบริการด้านวิชาการ คณาจารย์ที่มีชื่อเสียง เป็นผู้ที่ทำงานให้กับประเทศในระดับแนวหน้า รวมทั้ง อัตลักษณ์ในความเป็นมหิดล อยู่ใน Top Ranking มาโดยตลอด ทำให้ได้รับการยอมรับ เชื่อถือ ในคุณภาพของคณาจารย์และผลงาน อีกทั้งเรามีการใช้ Digital Marketing ลดความเหลื่อมล้ำของการศึกษาในประเทศ สิ่งที่หลักสูตรเราให้มาก กว่าใบปริญญา ท่านจะสามารถนำความรู้ที่ได้ไปทำงานได้จริง และเป็นบุคลากรของประเทศที่มีประสิทธิภาพอย่างแน่นอนค่ะ สนใจดูข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรได้ที่ www.grad.mahidol.ac.thผู้สนใจเข้าศึกษา สามารถดูรายละเอียดหลักสูตรได้ที่
http://www.grad.mahidol.ac.th/th/prospective-students/view.php?id=3801M03Sช่วงเวลาเปิดรับสมัคร : ตุลาคม – กุมภาพันธ์ ของทุกปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
งานวิเทศสัมพันธ์และสื่อสารองค์การ , งานรับนักศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0 2441 4125 ต่อ 130 - 135, 110-115
เปิดอ่าน
Warning: mssql_query() [function.mssql-query]: message: The INSERT permission was denied on the object '_pageview', database 'WEB_Grad', schema 'dbo'. (severity 14) in D:\Website\th\assets\counter.php on line 12
Warning: mssql_query() [function.mssql-query]: Query failed in D:\Website\th\assets\counter.php on line 12
4,686 ครั้ง ส่งเข้าไลน์